ที่เที่ยวฮอกไกโดฉบับอัปเดต แชร์พิกัดจุดเช็กอินห้ามพลาด

ที่เที่ยวฮอกไกโดฉบับอัปเดต แชร์พิกัดจุดเช็กอินห้ามพลาด

ฮอกไกโด เกาะใหญ่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์หลากหลาย ทั้งภูเขาไฟ ป่าไม้ ทุ่งหญ้า ทะเล และหิมะขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว ความงดงามของที่นี่แตกต่างไปตามฤดูกาล แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักคือบรรยากาศฤดูหนาวที่ทั้งเกาะถูกปกคลุมด้วยหิมะเนื้อนุ่มราวปุยนุ่น จนกลายเป็นจุดหมายในฝันที่นักเดินทางทั่วโลกอยากมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต
ครั้งนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปอัปเดต 9 ที่เที่ยวฮอกไกโด พร้อมพิกัดจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าคุณจะเคยมาเที่ยวฮอกไกโดแล้วหรือกำลังวางแผนเที่ยวฮอกไกโดครั้งแรก บอกเลยว่ามีครบทั้งแลนด์มาร์กสุดคลาสสิกและมุมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ รอให้คุณเก็บไว้ในลิสต์ทริปหน้าแน่นอน!

1 - เที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดีที่สุด สวยที่สุด ?

เที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดีที่สุด สวยที่สุด ?

ถ้าถามว่าเที่ยวฮอกไกโดสวยที่สุดเดือนไหน คำตอบจริง ๆ คือ สวยทุกฤดู ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากเห็นวิวอะไรเป็นพิเศษ เพราะเกาะนี้จริง ๆ แล้ว สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าสวยทุกฤดู โดยแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น

• ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) - สำหรับหลายคน นี่คือช่วงไฮไลต์ของฮอกไกโดเลย เพราะเกาะทั้งเกาะจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวนุ่มราวปุยนุ่น เหมาะกับการเล่นสกี เล่นสโนว์บอร์ด หรือถ่ายรูปทุ่งหิมะสุดอลังการ ใครเป็นสาย winter wonderland รับรองว่าฟินสุด ๆ
• ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน - พฤษภาคม) - ช่วงนี้หิมะจะเริ่มละลายแล้ว และดอกซากุระสายพันธุ์ฮอกไกโดจะเริ่มบานให้คุณได้ชมดอกไม้ท่ามกลางภูเขา ถ้าคุณชอบความสงบและวิวเขียวสดใส นี่คือเวลาที่เหมาะเลย
• ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) - ฮอกไกโดในฤดูร้อน ไฮไลท์ที่หลายคนให้ความสนใจคงจะหนีไม่พ้นทุ่งดอกไม้ โดยเฉพาะลาเวนเดอร์ที่ฟุราโนะ หรือทุ่งดอกไม้หลากสีสันในบิเอ อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเหมือนโตเกียวหรือโอซาก้า และยังเป็นเวลาที่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปีนเขา ปั่นจักรยาน หรือแคมป์ปิ้ง
• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) - ใครชอบใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำให้มาในช่วงนี้ เพราะภูเขาและป่าไม้จะเปลี่ยนสีเป็นแดง ส้ม เหลืองสวยสุด ๆ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์

2 - แนะนำ 9 ที่เที่ยวแนะนำในฮอกไกโด ใครไปก็ต้อง Check-in No.1-4

1.คลองโอตารุ (Otaru Canal) - เมืองโอตารุ

สถานที่เที่ยวฮอกไกโดที่แรกที่อยากแนะนำ ทุกคน คือ คลองโอตารุ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ถ่ายรูปสวย ๆ แต่เป็นเสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ ที่ยังคงความคลาสสิกแบบยุคเก่าของญี่ปุ่นเอาไว้ โดยคุณสามารถเดินเล่นไปตามริมคลอง และจะเห็นโกดังอิฐเก่าแก่ที่ถูกแปลงเป็นร้านคาเฟ่ ร้านของฝาก และแกลเลอรีน่ารัก ๆ ยิ่งช่วงค่ำไฟส่องสะท้อนลงบนผิวน้ำ ช่วยสร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก สำหรับใครชอบถ่ายรูป อัพอินสตาแกรมรับรองว่ารูปออกมาสวยถูกใจแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือในคลอง ให้คุณได้ชมเมืองโอตารุจากมุมมองที่ต่างไปจากการเดินชมเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ไปตอนบ่ายแก่ ๆ จนถึงเย็น จะได้ครบทั้งบรรยากาศในช่วงกลางวันและแสงสีทองยามเย็น
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/1gKexS9GQkHYzLed8 **

2.ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa Ropeway) - ซัปโปโร

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวฮอกไกโด และจุดชมวิวเมืองซัปโปโรที่สวยที่สุด "ภูเขาโมอิวะ" คือหนึ่งในตัวเลือกแรก ๆ ที่คุณไม่ควรพลาด โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง คุณสามารถขึ้นไปยังยอดเขาได้ง่าย ๆ ด้วย Ropeway และเคเบิลคาร์ที่สะดวกสบาย สิ่งที่ทำให้ Mt. Moiwa น่าประทับใจไม่ใช่แค่วิวเมืองซัปโปโร แต่เป็นบรรยากาศโดยรอบตั้งแต่ช่วงทางขึ้น เริ่มตั้งแต่ป่าต้นสนและต้นเมเปิลเรียงรายสองข้างทาง ให้ฟีลเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงสีของใบไม้สลับแดง เหลือง ส้ม สวยจนแทบลืมหายใจ
พอขึ้นถึงจุดชมวิวบนยอดเขา คุณจะเห็นวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ของเมืองซัปโปโรแบบเต็มตา ทั้งแม่น้ำ Ishikari ที่ไหลผ่านเมือง ทิวทัศน์ภูเขาใกล้ ๆ และถ้าโชคดีอากาศแจ่มใส คุณมองเห็นถึงทะเลทางเหนือ เรียกได้ว่าทุกมุมคือมุมถ่ายรูปที่ดีที่สุด นอกจากนี้บนยอดเขายังมีร้านอาหารและร้านของฝากให้คุณแวะก่อนลงมาอีกด้วย
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/4fppuzcbst1mjPh98 **

3.ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) - ฮาโกดาเตะ

ถ้าพูดถึงฮาโกดาเตะ หลายคนคงนึกถึงวิวภูเขาและทะเล แต่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสายกิน เมื่อเดินเข้าตลาด คุณจะได้กลิ่นหอมของอาหารทะเลสด ๆ มีทั้งปู หอยเชลล์ ปลาหมึก และปลาแซลมอนสด ๆ ที่เรียงรายให้เลือกสรรอย่างจุใจ นอกจากจะซื้อกลับบ้านได้แล้ว หลายร้านยังมี ข้าวหน้าซาชิมิ (Kaisen-don) ให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติแบบสด ๆ ทันที บอกเลยว่าเพียงคำแรกก็สัมผัสถึงความหวานและความสดของทะเลฮอกไกโด
นอกจากอาหารทะเล ตลาดยังเต็มไปด้วยผักผลไม้ท้องถิ่น ของฝาก และร้านขนมเล็ก ๆ ที่สร้างบรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในวิถีชีวิตชาวฮอกไกโดจริง ๆ แนะนำให้มาแต่เช้า จะได้ชมตลาดในช่วงคึกคักที่สุด และถ่ายรูปบรรยากาศเมืองที่ผสมผสานวิถีชาวบ้านกับนักท่องเที่ยว
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/6eRQS7FrUzrTEdoK7 **

4.บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond) - บิเอ

ถ้าพูดถึงจุดชมธรรมชาติที่ต้องมาเช็กอินเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด ชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคงเป็น บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ซึ่งเป็นบ่อน้ำสีฟ้าเข้ม ซึ่งเกิดจากแร่ธรรมชาติผสมกับแสงแดดที่ตกกระทบ ผิวน้ำสะท้อนภาพต้นไม้และท้องฟ้าเป็นมุมถ่ายรูปที่เไม่ควรพลาด ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้รอบ ๆ เปลี่ยนสี น้ำฟ้าก็ยิ่งโดดเด่นตัดกับสีแดง ส้ม เหลืองของใบไม้ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาราวกับโปสต์การ์ด
อีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี่คือ ต้นไม้แห้งกลางบ่อน้ำ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ราวกับฉากในเทพนิยาย เพิ่มความลึกลับและความสวยงามให้กับบ่อ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินเล็ก ๆ รอบบ่อ ทำให้คุณสามารถเดินชมมุมต่าง ๆ และหามุมถ่ายรูปได้หลายมุมโดยไม่เบื่อ แนะนำให้มาช่วง เช้า แสงแดดนุ่ม ๆ ทำให้สีฟ้าของบ่อดูสดใส และถ้าโชคดีจะได้เห็น หมอกลอยเหนือผิวน้ำอีกด้วย
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/FGRgVRdTNiHMoULm8 **

3 - แนะนำ 9 ที่เที่ยวแนะนำในฮอกไกโด ใครไปก็ต้อง Check-in No.5-9

5.ทุ่งดอกไม้ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) - ฟุราโนะ

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ในเมืองฟุราโนะคือหนึ่งในจุดที่เที่ยวฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสายถ่ายรูปและผู้ที่หลงรักในดอกไม้ เมื่อคุณเดินเข้ามาในฟาร์ม สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ แถวทุ่งลาเวนเดอร์ ที่บานสะพรั่งเป็นแนวยาวไปจนสุดสายตา สีม่วงเข้มของลาเวนเดอร์ตัดกับสีเขียวของภูเขาเบื้องหลัง ทำให้ทุกมุมเหมือนภาพวาด ส่วนฤดูร้อนยังมี ดอกไม้หลายชนิดผลัดกันบาน ไม่ว่าจะเป็น ดอกทานตะวัน ดอกป๊อปปี้ และดอกไม้สีสันสดใสอื่น ๆ ทำให้ฟาร์มเต็มไปด้วยความสดชื่นและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/oU2deJ9R2z6qiTnp8 **

6.สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) - อาซาฮิกาวะ

สำหรับใครที่มาเที่ยวฮอกไกโด และอยากสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับสัตว์ท้องถิ่น สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ในเมืองอาซาฮิกาวะถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ด้วยการออกแบบการจัดแสดงแบบใหม่ที่ทำให้เราเห็นสัตว์ในมุมมองที่ใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติที่สุด พื้นที่จัดแสดงสัตว์หลายส่วนถูกออกแบบให้ นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ผ่านอุโมงค์กระจกและทางเดินยกสูง ทำให้เห็นพฤติกรรมของสัตว์แบบชัดเจน เช่น เพนกวินที่เดินพาเหรดใกล้ ๆ เหมือนมาทักทาย หรือหมีขั้วโลกที่ว่ายน้ำในอุโมงค์น้ำใส
ไฮไลต์ที่ทุกคนรอคอยคือ เพนกวินพาเหรด (Penguin Parade) ที่จัดขึ้นในฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมเพนกวินเดินเรียงเป็นแถวข้ามลานหิมะ เป็นมุมถ่ายรูปที่น่ารักสุด ๆ นอกจากนี้ยังมี สัตว์ท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น นกฮูก หมาป่า แรคคูน และสุนัขจิ้งจอก ที่จัดแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่กลางธรรมชาติของฮอกไกโด
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/CiueNV7Mjo5zMXkK6 **

7.Shiroi Koibito Park - ซัปโปโร

ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงงานช็อกโกแลต แต่เป็น สวนสนุกเล็ก ๆ สไตล์แฟนตาซี ที่ทำให้เราเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกขนมหวาน ตัวอาคารทาสีขาวสุดคลาสสิก พร้อมปล่องไฟและรายละเอียดแบบยุโรปยุคเก่า ทำให้ถ่ายรูปออกมาได้หลายมุมสวย ๆ ทั้งภายนอกและภายใน ตัวโรงงานยังมี โซนชมขั้นตอนการผลิตคุกกี้ Shiroi Koibito ให้เห็นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การอบคุกกี้ จนถึงการบรรจุ
นอกจากนี้ยังมี สวนภายในและมุมถ่ายรูปสไตล์ยุโรป ที่ประดับด้วยดอกไม้และตุ๊กตาน่ารัก เหมาะกับการเดินเล่นชิล ๆ หรือมาถ่ายรูปเก็บความทรงจำ แถมยังมี คาเฟ่และร้านขนม ให้ลิ้มลองช็อกโกแลตและขนมหวานสูตรต้นตำรับ
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/yL2QX92xbU4YaQZS9 **

8.ภูเขาไฟโชวะชินซัง & ฟาร์มหมีสีน้ำตาล (Showa Shinzan & Bear Farm)

ถ้ามาเที่ยวฮอกไกโด และชื่นชอบธรรมชาติ อยากจะเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง ภูเขาไฟโชวะชินซัง (Showa Shinzan) คือหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาด ภูเขาไฟขนาดเล็กที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันในปี 1944 และยังคงมีไอร้อนพวยพุ่งให้เห็นเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตของภูเขาไฟ ไม่ไกลจากภูเขาไฟโชวะชินซัง จะมีฟาร์มหมีสีน้ำตาล ที่เป็นถือว่าเป็นสัตว์ท้องถิ่นของฮอกไกโด ที่นี่คุณสามารถชมพฤติกรรมหมีในธรรมชาติแบบใกล้ ๆ โดยมีการจัดพื้นที่ให้เหมาะสมและปลอดภัย
พิกัด :** https://maps.app.goo.gl/7BJLNaCVLQMnoPAu8**

9.น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) - บิเอะ

น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบิเอะ น้ำใสจนเห็นสีฟ้าอมเขียวสะท้อนกับท้องฟ้า บริเวณรอบน้ำตกถูกล้อมด้วย ป่าต้นสนและหินรูปร่างแปลกตา ทำให้แต่ละมุมที่มองเห็นน้ำตกมีความโดดเด่นแตกต่างกัน ใครเป็นสายถ่ายรูป รับรองว่าได้รูปสวยมุมไม่ซ้ำกันแน่นอน
ช่วงเวลาที่น้ำตกสวยที่สุดคือ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เมื่อน้ำจากหิมะละลายไหลลงมาเต็มที่ น้ำตกจะดูงดงามและสดชื่นเป็นพิเศษ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็ให้บรรยากาศโรแมนติกด้วยสีสันของใบไม้รอบ ๆ น้ำตกที่เปลี่ยนเป็นแดง ส้ม และเหลือง นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้ว การเดินทางมาที่นี่ยังให้ความรู้สึก สงบและใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนสั้น ๆ ทำให้เป็นหนึ่งในที่เที่ยวฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาด!
พิกัด : **https://maps.app.goo.gl/kJKSLLAzcMQBRVdp8 **

4 - สรุป

สรุป

หลังจากแนะนำ 9 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดไปแล้ว หลายคนคงเริ่มเห็นภาพว่า ฮอกไกโดเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ควรไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต เพราะไม่ว่าจะไปในฤดูกาลไหน ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป ทั้ง ฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้สดใส ฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมขาวสะอาด ฤดูใบไม้ผลิที่ธรรมชาติเริ่มผลิบาน หรือ ใบไม้ร่วงที่ภูเขาและทุ่งหญ้าสีทองสลับแดง ฮอกไกโดจึงเป็นดินแดนที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และทุกฤดูก็สวยในแบบของมันเอง

Find out more about Club Med

Our best resorts